วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

รู้หรือไม่ ทำไมบริษัทการ์ตูนถึงเน้นการขาย online ไม่มีหน้าร้าน?


Designed by Freepik

การซื้อการขายนั้นเกิดขึ้นบนโลกมา2พันกว่าปี แล้ว และตั้งแต่อินเตอร์เข้ามีส่วนในชีวิตของเรา จนแทบจะเป็นปัจจัยที่ 5 อยู่แล้ว ก็ทำให้เกิดการซื้อขายบนอินเตอร์เน็ต หรือที่เขาเรียกกันว่า E-commerce นั่นแหละครับ

เดิมที E-commerce มันเป็นแค่อะไรเก๋ๆ ที่เติมเต็มให้แบรนด์หรือ shop ต่างๆ ดูทันสมัยไม่ตกยุค แต่ในยุคที่เราติดต่อกันโดยไม่สนใจหน้าตาและภาษาแล้ว E-commerce หรือตอนนี้เป็น Online shopping นั้น
กลายเป็นช่องทางทำมาหากินที่จะกลายเป็นกระแสหลักในไม่ช้า

1.
คือในยุคสมัยที่เศรษฐกิจตกต่ำนั้น คนขายก็ยังอยากขาย, คนซื้อก็ยังอยากซื้อ แต่ทุกคนก็รัดเข็มขัดไม่ยอมใช้จ่ายมากนัก เพราะต้องเผื่อชีวิตในวันข้างหน้าไว้บ้างนั้น ก็ทำให้สภาพคล่องทางการเงินในวงการซื้อขายสะดุดไปไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยด้านบันเทิงนั้น ถูกจำกัดการบริโภคแทบจะเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งในประเทศไทยเองก็เห็นการหยุดตีพิมพ์หนังสือการ์ตูน, การชะลอตัวในการผลิตสินค้า DVD VIDEOให้ได้เห็นกันมาแล้ว

2.
ครั้งนี้ผมขอพูดถึง DVD VIDEO
อันที่จริงก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจอย่างเดียวหรอกครับ การดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตก็เป็นปัจจัยที่ฆ่าธุรกิจมานักต่อนัก เพราะประเทศไทยเองก็เป็นชาติที่ละเมิดลิขสิทธิ์อันดับต้นๆ ของโลก เรียกว่าใครอยากได้ของเถื่อน ต้องมาเยือนตลาดแผ่นผีประเทศไทยเลยทีเดียว เรียกว่า เลวร้ายได้โล่

3.
ก่อนจะเลยไปประเด็นนั้น ก็ขอกลับมาที่การซื้อขายถูกลิขสิทธิ์ก่อนดีกว่า

ทราบมั้ยครับว่า การซื้อขายตามร้านเนี่ย จริงๆ ร้านค้าเขาก็ต้องมีกำไรนะครับ
มันไม่มีทางที่เจ้าของสินค้าจะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยแต่แรก แบบสินค้า 1 ชิ้น 100 บาท จะต้องแบ่งให้ร้านค้า, แบ่งให้สายส่ง, และยังต้องเอาไปจ่ายค่าผลิตสินค้าให้โรงงาน และจ่ายให้ต้นสังกัดต่างประเทศอีก เรียกว่าสมมติว่าแบ่งให้ทุกคนคนละ 10 บาท เงิน 40 บาทก็หายไปแล้ว นี่ยังไม่รวมจัดทำต้นฉบับอีกนะครับ สมมติว่าพูดถึง DVD หนังต่างประเทศซักเรื่อง ก็ต้องมีค่าแปล, ค่าพากย์เสียง, ค่าจัดพิมพ์แพ็คเกจอีก เรียกว่าสินค้า 100 บาทนั้นจริงๆ เหลือเงินกำไรกลับมาไม่มากหรอก

แล้วพอมาในยุคเศรษฐกิจไม่ดี ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตนะร้านค้าก็ซบเซา ในกทม.นี่ชัดเจนมากครับว่าในช่วง shut down Bangkok เมื่อหลายปีก่อนนั้น เป็นตัวการนึงที่ทำให้ธุรกิจรายย่อยอย่างร้านขายของต้องปิดตัวลงไป เพราะไม่มีคนออกจากบ้านมาจับจ่ายใช้สอย เมื่อไม่มีรายได้ ร้านค้าก็อยู่ไม่ได้ และทยอยปิดตัวลงไปเรื่อยๆ เหลือเพียงร้านที่มีสาขาเยอะๆ บางร้านเท่านั้น

เคยสังเกตุมั้ยว่าร้านขายแผ่นในห้างปิดตัวกันไปมากแค่ไหนแล้ว?

4.
เมื่อไม่มีร้านช่วยขาย แล้วสินค้าจะไปอยู่ไหน? มันก็ต้องส่งคืนผู้ผลิต ก่อให้เกิดหนี้จากสินค้าที่ไม่สามารถขายออกได้ แล้วทำไงดี?? ทางผู้ผลิตเขาก็ต้องมาขายของแบบหน้าร้านบนเน็ตแทน ทีนี้ก็จะไม่ต้องไปแบ่งเงินให้กับร้านค้า (ซึ่งไม่มีร้านขาย) และ สายส่ง (อยากได้สินค้าทุกเดือนโดยไม่สนใจว่าผู้ผลิตจะตายวันตายพรุ่ง) เงินที่เคยต้องจ่ายเขาก็เอามาชดเชยการขายที่น่าจะน้อยลงมหาศาลนั่นเอง


5.
แต่ทั้งที่น่าจะดีแล้วแท้ๆ ทำไมมีบางเจ้าต้องให้พรีออเดอร์หรือจ่ายเงินล่วงหน้าอีก?

ทราบมั้ยครับ ว่าการผลิตแผ่น พิมพ์ปก และอะไรต่อมิอะไรมันมีหลักเกณฑ์การผลิตแบบไหน?

----- คุณอาจจะคิดว่าแค่มีปกแค่ไรท์แผ่นมันจะอะไรนักหนาวะ?

คือการผลิตของพวกนี้นะครับ ถ้าผลิตจำนวนมากก็จะจ่ายราคาต่อ1หน่วยถูกกว่าผลิตจำนวนน้อยครับ พูดง่ายๆ ผลิต 100 แผ่น แพงกว่า 300 แผ่น, ผลิต 300 แผ่นก็แพงกว่าผลิต 1000 แผ่น สมมติมีใครบอก
"พี่ออก Limited มาเลย 100 แผ่น ผมว่ามีคนซื้อแน่นอน" ครับ แต่ 100 แผ่นนี่คงต้องมีราคาที่แพงกว่าตอนผลิต 1000 แผ่นถูกมั้ยครับ? นั่นก็รวมถึงสิ่งพิมพ์, ของแถมต่างต่างนานาอีก ถ้าทำขายแค่ 100 ชิ้น ค่าผลิตนี่แพงหูฉีกเลยครับ

สินค้าที่อาจจะเคยขายแค่ 100 บาท อาจจะพุ่งพรวดเป็น 500 บาทได้ง่ายๆ

----- 100 ยังไม่ซื้อ 500 จะมีคนซื้อเหรอ?

ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตเขาก็พิจารณามาตลอดว่า จะมีเหรอ? พอเขาไม่รู้เขาเลยลองเปิดให้สั่งจองในเน็ตดูกระแสตอบรับว่า เออจะซื้อกี่ชิ้นนะ? ถ้ายอดไม่ถึงก็ไม่ผลิตละกันขอแค่ 100 ชิ้นยังไม่ถึง ก็ไม่ผลิตดีกว่ามั้ย? เพราะลงทุนไปก็ไม่คุ้ม

มันเป็นตรรกะง่ายๆ แค่นี้เองครับ ก็เลยมีอะไรแบบ Kick starter , ลงขัน เกิดขึ้น

6.
แล้วทำไมเขาต้องให้ออเดอร์เป็นชุดวะ กูไม่มีตัง

6.1
สมมติให้ออเดอร์ทีละแผ่น มันไม่รับประกันผู้ผลิตว่า ลูกค้าจะอุดหนุนทุกแผ่น เพราะตัวหนังเอง ผู้ผลิตก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำให้หนังสนุกขึ้นได้ คือ ถ้า content มันดีแค่แผ่นแรกๆ แล้วแผ่นจะจบห่วยแตก เป็นคุณ คุณก็หยุดซื้อหรือเปล่า? แต่ผู้ผลิตเขาต้องทำล่วงหน้านะครับ
เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง

6.2
มันเป็นเรื่องของการส่งของครับ รู้มั้ยครับว่าการส่งของครั้งหนึ่งก็มีค่าใช้จ่าย มันไม่ใช่การไปส่งให้คุณที่หน้าบ้านนะครับ มันมีการส่งไปรษณีย์ ส่ง 1 แผ่นก็เสียค่าส่งประมาณนึง มี 10 แผ่นจบ ระหว่างให้ส่ง 10 ครั้ง กับส่งครั้งเดียว 10 แผ่น อะไรมันถูกกว่ากัน? คิดง่ายๆ เหมือนนั่งแท็กซี่ 3 คนพร้อมกัน กับ 3 คนนั่งแท็กซี่คนละคัน ทั้งที่ไปจุดหมายเดียวกัน ส่งของทางไปรษณีย์ก็สูตรนั่นแหละคุณ




7.
ประเทศไทยและคนไทยอาจจะยังไม่ชินกับระบบซื้อขายออนไลน์ก็จริง แต่ถ้าไม่เริ่ม เราก็คงไม่เหลือผู้ผลิตสินค้าในสักวันก็ได้

อยากให้คิดดูนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น